เศรษฐกิจโลกฉบับวิกฤตโควิด-19 น่าจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ต่อธุรกิจ luciabetโดยมาก สำหรับยักษ์ใหญ่ที่แวดวงขายปลีกของสหรัฐฯ และก็ของโลกอย่าง Walmart แน่ๆว่าย่อมได้รับผลพวงไม่มากมายก็น้อย แม้กระนั้นดูเหมือนกับว่าการปรับตัวของ Walmart ในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา จะช่วยบริษัทฝ่าวิกฤตคราวนี้ไปได้อย่างสะดวกสบายนัก โดยเฉพาะเมื่อมองจากราคา “หุ้น Walmart” ที่พุ่งขึ้นทำ All time high สวนกับหุ้นส่วนใหญ่ทั่วทั้งโลกในปีนี้ ช่วงกลางเดือน ม.ย. ก่อนหน้านี้ ราคาหุ้น Walmart พุ่งขึ้นไปทำจุดสุดยอดที่ราว 133 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ข้างหลังบริษัทรายงานผลกำไรปีปัจจุบัน หมดใน31 เดือนมกราคม 2020 รวมทั้งเมื่อย้อนกลับไปดู 5 ปีที่ล่วงเลยไป จะมีความคิดเห็นว่าผลประกอบการของ Walmart พึ่งกลับมาเติบโตอีกรอบในปีปัจจุบันนี้ แม้คิดเป็นการเติบโตในเชิงเงินสด luciabetปีที่ล่วงเลยไปรายได้ของ Walmart มากขึ้น 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือโดยประมาณ 3.1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นปริมาณที่เยอะๆ แต่ว่าถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การเจริญเติบโตแล้ว มันช่างมองบางส่วนนัก เป็นเพียงแค่ 1.85% ดังนี้มีการเดากันไว้ว่าผลกำไรของบริษัทจะเติบโต 4% ในปีนี้ รวมทั้ง 6% ในปีหน้า ภายหลังที่ก้าวกระโจนกว่าเท่าตัวเมื่อปีก่อน ก็อาจจะจำเป็นต้องติดตามมองกันถัดไปว่า การเจริญเติบโตของ Walmart ในระดับนี้จะยังช่วยดันตีราคาให้ “หุ้น Walmart” ทำจุดสุดยอดใหม่ไปได้ตลอดมากแค่ไหน กลับสู่หน้าหลัก

หนังสือนับได้ว่าเป็นแหล่งวิชาความรู้ที่สุดคลาสสิกแล้วก็เป็นที่ชื่นชอบกันในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สำหรับนักลงทุน luciabetหุ้นแล้ว “หนังสือหุ้น” ก็นับได้ว่าเป็นแหล่งวิชาความรู้ที่นักลงทุนในระดับเริ่มไปจนกระทั่งระดับมืออาชีพต่างนิยมรวมทั้งกล่าวโทษรู้กันจากแหล่งนี้ เนื่องจากว่าพวกเราสามารถอ่านกันได้ทุกแห่ง ตลอดเวลาที่พวกเราต้องการจะทำ ไม่ต้องอาศัยสาเหตุอื่นๆรวมทั้งพึงพอใจเพียงตัวเราเองแค่นั้น 1. เพาะหุ้นเป็นได้ผลยืนนาน โดย คุณบทกลอน ยกธุระเกษมเล่มนี้เป็นหนังสือหุ้นที่เหมาะกับนักลงทุน luciabetที่มีสไตล์การลงทุนแบบ VI (Value Investor) ที่สอนให้พวกเราเข้าใจง่ายเล่มหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ รายละเอียดภายในมีการเล่ารวมทั้งเสนอแนะแนวความคิดที่ดี รวมทั้งมีการแบบอย่างชูมาประกอบเพื่อที่จะได้ให้พวกเราเห็นภาพที่เด่นชัดมากเพิ่มขึ้น แถมภาษาที่ใช้รู้เรื่องก็สามารถรู้เรื่องได้ง่าย พวกเราว่าเล่มนี้เหมาะกับการเริ่มต้นลงทุนในหุ้นเป็นเล่มแรกๆเลย 2. ตีแตก แผนการการเล่นหุ้นในสภาวะวิกฤต โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรเพียงแค่ชื่อนักประพันธ์ พวกเราก็มั่นใจว่าหลายท่านต่างก็รู้จักกันอย่างดีเยี่ยมอยู่แล้ว ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร มีหนังสือหลายเล่มออกมาให้นักลงทุนได้เก็บความรู้กัน ซึ่งในเล่มนี้ ดร. นิเวศน์ มีการเล่าว่า ก่อนจะเข้ากระโจนเข้ามาลงทุนในหุ้นพวกเราจึงควรเรียนหรือมีสิ่งที่พวกเราจำเป็นต้องทราบอะไรก่อนบ้าง ในตอนที่กำเนิดวิกฤตในแต่ละครั้ง ได้โอกาสอะไรที่แฝงหลบซ่อนอยู่ แม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะแก่อานามที่นานสักหน่อย แม้กระนั้นพวกเราว่าแนวความคิดต่างๆยังจัดว่าใช้ได้และก็ค่อนข้างจะร่วมยุคกับปัจจุบัน 3. กุญแจอ่านงบการเงิน สำหรับนักลงทุนหุ้น โดย Mr. LikeStockหนังสือเล่มนี้เหมาะสมกับนักลงทุนสายเบื้องต้นที่อยากได้เริ่มศึกษาการอ่าน “งบการเงิน” หนังสือเล่มนี้ จะเบาๆเริ่มจากการชี้แจงการอ่านงบการเงินจากรากฐานพร้อมเจาะลึงลงไปทีละลำดับตอน รวมทั้งชี้ให้พวกเรามีความเห็นว่าจำนวนไหนที่เป็นตัวเลขที่นักลงทุนแบบพวกเราๆจะต้องอ่านให้ได้ ใช้ให้เป็น 4. เหนือกว่าวอลสตรีท (One up on Wall street) โดย Peter Lynch & John Rothchildสำหรับหนังสือเล่มนี้ เพียงแค่มองเห็นชื่อคนเขียนอย่าง Peter Lynch ก็อาจจะต้องแวะซื้อจากร้านจำหน่ายหนังสือเพื่อมาอ่านกันสักเล่มอย่างแน่แท้ โดยเล่มนี้มีผู้แปลเป็นภาษาไทยระดับคุณครูอย่าง ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ซึ่งสำหรับเล่มนี้จากที่พวกเราได้จับอ่านนั้น พวกเราคิดว่ารายละเอียดนั้นดีทีเดียว แม้กระนั้นเนื่องจากว่าเป็นหนังสือแปล ในบางครั้งบางครั้งอาจจะไม่ค่อยได้อารมณ์เท่าไร ซึ่งหากคนไหนถนันภาษาอังกฤษ พวกเราบางทีอาจจะชี้แนะให้ไปพบอ่านเล่มต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษก็น่าที่กำลังจะได้อารมณ์มากยิ่งกว่า 5. ศาสตร์ที่บัฟเฟตต์ Buffetology โดย Mary Buffet & David Clarkหนังสือเล่มนี้ เหมาะกับผู้ที่เป็นนักลงทุนที่ผ่านการลงทุนมาครู่หนึ่งหนึ่งแล้ว โดยเล่มนี้จะเป็นขั้นต่อของการวิเคราะห์หุ้นโดยใช้หลัก DCF (Discount Cash Flow) รวมถึงแนวความคิดการมองหุ้นระยะยาว ที่จะทำให้รู้เรื่องในแนวความคิดของการเลือกหุ้นของ Warren Buffet มากขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่แท้ กลับสู่หน้าหลัก

“ค่าธรรมเนียมหุ้น” หรือที่บางบุคคลเรียกว่าค่าคอมมิชชั่น เป็นสิ่งที่คนไม่ใช่น้อยที่กำลังเริ่มเล่นหุ้น luciabetบางทีก็อาจจะละเลยไป เมื่อพวกเราเริ่มลงทุนในหุ้นที่มีการลงทุนผ่านระบบเทรดต่างๆไม่ว่าจะเป็น Streaming หรือ efin ก็ตาม ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันก็ฯลฯทุนของพวกเราแบบเดียวกัน เพราะว่าอย่าลืมว่าไม่มีผู้ใดมาเปิดบริการให้พวกเราใช้ฟรีแน่ๆ 1. “ค่าธรรมเนียมหุ้น” แตกต่างตามแต่ละชนิดบัญชีรวมทั้งกระบวนการจำหน่ายธรรมดาแล้วการค้าขายหุ้น luciabetโดยธรรมดา พวกเราสามารถค้าขายหุ้นได้ 2 วิถีทางเป็นซื้อขายแลกเปลี่ยนเองผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ จำหน่ายผ่าน marketing ซึ่งแน่ๆว่าค่าธรรมเนียมที่พวกเราซื้อขายแลกเปลี่ยนเองย่อมต่ำลงมากยิ่งกว่าจำหน่ายผ่าน marketing แม้กระนั้นในการจำหน่ายหุ้นด้วยตัวเอง ค่าธรรมเนียมจะไม่เหมือนกันตามชนิดบัญชีที่พวกเราใช้เป็นถ้าหากพวกเราจำหน่ายผ่านบัญชีเงินสดจะเสียค่าบริการสูงขึ้นยิ่งกว่าบัญชีแคชบาลานซ์หรือเครดิตบาลานซ์ ไว้พวกเราจะลองแยกให้มองว่าบัญชีแต่ละจำพวกไม่เหมือนกันเช่นไร 2. ในค่าธรรมเนียมจำหน่ายหุ้นที่พวกเราเสียไปส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นค่าครองชีพให้ตลาดหุ้นด้วยอย่างที่พวกเราทราบว่าตลาดหุ้นมีบทบาทควบคุมดูแลแล้วก็ป้องกันนักลงทุนรายย่อย ซึ่งย่อมมีค่าใช้จ่าย แต่ว่าเป็นเพียงนิดหน่อยแค่นั้นเป็นค่าธรรมเนียมตลาดหุ้นฯ (SET Trading Fee) : 0.005% ของราคาการค้าขายต่อวัน ค่าธรรมเนียมการจ่ายราคาแล้วก็ส่งหลักทรัพย์ (TSD Clearing Fee) : 0.001% ของราคาการค้าขายต่อวัน ค่าธรรมเนียมการดูแลดูแล : 0.001% ของค่าการค้าขายต่อวัน 3. เว้นแต่ “ค่าธรรมเนียมหุ้น” แล้ว พวกเรายังจะต้องจ่าย VAT อีก 7%แม้กระนั้นไม่ต้องสะดุ้งไป เพราะเหตุว่า VAT มิได้เก็บจากจำนวนเงินที่พวกเราจำหน่ายหุ้น แม้กระนั้น VAT จะคิดจากค่าธรรมเนียมจำหน่ายหุ้นที่พวกเราจ่ายให้กับโบรคเกอร์รวมกับค่าธรรมเนียมที่พวกเราจ่ายให้ตลาดหุ้น สมมุติว่าเค้าเสียค่าบริการ 0.18% พวกเราก็จะเสียค่าบริการจริงๆ  ก็บวกไปอีก 7% ของ 0.18% หรือพอๆกับ 0.1926% เพียงแค่นั้น ถ้าหากคิด 7% จากเงินทุน พวกเราว่าเล่นหุ้นชาติไหนจะมั่งมีได้ละเนี้ย พวกเราคนนึงอาจจะไม่เล่นหุ้นแน่นอน 4. พวกเราสามารถต่อรองค่าธรรมเนียมได้ !!หากพวกเรายิ่งเทรดจำนวนเงินจำนวนไม่ใช่น้อยค่าธรรมเนียมก็จะยิ่งถูกลงๆได้เรื่อยขึ้นกับการเจรจาต่อรองกันทั้งหมด แม้กระนั้นพวกเราบอกได้เลยว่ารายย่อยแบบพวกเราไปต่อรองเค้าก็อาจจะมิได้ให้โปรโมชั่นอะไรกับพวกเราเยอะแค่ไหน แต่ว่าเผื่อไว้ในอนาคตที่พวกเรามั่งมีๆก็อย่าลืมไปสนทนาต่อรองกันมอง 5. มีค่าประเพณีอย่างน้อยหรือไม่ ?โดยมากโบรคเกอร์ที่คิดค่าธรรมเนียมอย่างน้อยจะคิดที่ 50 บาทต่อวัน สำหรับมือใหม่ที่เริ่มลงทุนน้อยๆจำนวนเทรดต่อวันไม่เกิน 25,000 บาท พวกเราเสนอแนะให้ไปทดลองหาโบรคเกอร์ที่เค้าไม่คิดค่าธรรมเนียมอย่างน้อยดีมากกว่า เนื่องจากสมมุติพวกเราเทรดเองต่อวัน 10,000 บาท ค่าธรรมเนียมตามจริงที่พวกเราจะเสียเป็น 0.2% ก็คือ 20 บาท แม้กระนั้นโบรคเกอร์ที่พวกเราใช้มีค่าจารีตอย่างต่ำ 50 บาท พอๆกับพวกเรามีต้นทุนการค้าขายมากขึ้นมา 1.5 เท่าอย่างยิ่งจริงๆ แบบงี้พวกเราชี้แนะให้หาโบรคเกอร์ที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมอย่างต่ำจะดีมากยิ่งกว่านะ กลับสู่หน้าหลัก