ลุงพุฒิให้ลุงยศเดินไปหยิบถุงผ้าในรถสักพักลุงยศก็เดินกลับมาพร้อมถุงผ้าสีขาว ลุงพุฒิล้วงเข้าไปหยิบสายสิญจน์แล้วเดินไปที่กอไผ่ lynblue89 เอาปลายด้านหนึ่งผูกไว้กับลำไผ่แล้วเดิมวนอ้อมรอบกอไผ่กอนั้นหลายรอบจบแล้วก็มายืนด้านหน้าของเหล่านั้น พึมพำอยู่ครู่แล้วโยนสายสิญจน์ที่เหลือเข้าไป ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายแก่แล้วแดดร้อนจัด ตาก็เอาไม้ขีดมาให้ลุงพุฒิลุงพุฒิจุดไม้ขีดก้านแรก ไฟลุกพรึบขึ้นมาแล้วก็ดับพรึบทันทีราวกับมีคนเป่าลมใส่ ลุงพุฒิก็หยิบขึ้นมาอีกก้านก็เป็นอาการเดิมคือยังไม่ทันจะต่อเชื้อ ไฟก็ดับอีก ลุงพุฒิก็ส่ายหัวบ่นพึมพำ ลุงยศก็ถามว่า ผีเป่ารึเปล่าลุงพุฒิได้แต่ยิ้มๆ ก็บอกให้หาน้ำมันก๊าดมาให้หน่อยlynblue89 ต้องรีบทำเวลาหน่อย ลุงยศก็ไปหยิบน้ำมันฉีดราดแถวโคนกอไผ่ลุงพุฒิบอกว่าพอเห็นของด้านในโดนเผาแล้ว ก็ฟันต้นไผ่ที่เหลือลงมาเผาด้วย เดี๋ยวไฟลามจะคุมยากแต่ต้องรอให้ของพวกนั้นโดนเผาก่อนนะอย่าลืม ลุงยักษ์กับลุงยอดก็เดินออกมาสมทบ ลุงพุฒิถามว่าแย้มเป็นยังไง ลุงยักษ์ก็บอก นอนสั่นเป็นเจ้าเข้า ยายกับน้าเย็นนั่งเฝ้าอยู่ลุงพุฒิวานลุงยอดให้เข้ามาช่วยกัน เผื่อไฟลามไปทางอื่น ส่วนลุงยักษ์ ลุงพุฒิบอกว่า“กลับไปนั่งด้านในนะ ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ เดี๋ยวจะตกใจ” พอลุงยักษ์เดินกลับเข้าไป ลุงพุฒิก็บอกว่า เอ๊า จุดละนะ ช่วยกันดูด้วย ลุงพุฒิจุดไม้ขีดอีกก้าน คราวนี้ไม่ดับ (สงสัยไม่มีลม) แล้วโยนไปตรงเศษใบไผ่แห้งที่ราดน้ำมันจนชุ่ม ไฟลุกพรึบขึ้นมาอย่างรวดเร็วลามไปจนถึงใจกลางกอไผ่ จากนั้นก็มีเสียง ฝุด ฝุด ฝุด ฝุด ดังมาจากด้านในแล้วตามด้วยเสียงกรี๊ดของน้าแย้ม ดังมาก ตากับแม่ที่ยืนอยู่ด้านนอกก็ตกใจ ตะโกนถามเข้าไปในบ้านว่า มีอะไร!? แย้มเป็นอะไร ยายก็ตะโกนกลับมาว่า ไม่รู้ อยู่ดีๆก็กรี๊ดขึ้นมาตอนนี้สลบไปแล้ว ทำยังไงดี ลุงยักษ์บอกไม่เป็นไรแม่ ไม่เป็นไร…
เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 14
ตากับหมอยาพร้อมลุงยศ เดินตามเข้าไปดูก่อน แม่จึงคว้ามือลุงยอดเดินตามเข้าไปด้วยแม่ได้ยินเสียงลุงพุฒิเตือนว่าอย่าเข้าไปใกล้มากสิ่งนั้น ไม่เพียงมีกลิ่นที่ชวนให้คลื่นเหียน มองเผินๆ เหมือนใยแมงมุม lyn68 แต่พอเข้าไปใกล้ๆดูชัดๆก็เห็นว่าเป็นเมือกใสๆเหมือนกาวยาง ระโยงระยางห้อยซ้อนกันไปมา น้ำเหนียวๆยืดห้อยต่องแต่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ใต้เมือกเหนียวๆ มีเศษซากอะไรบางอย่างแม่บอกว่าตอนแรกนึกว่าเป็นเศษใบไผ่ที่กองทับกันจนแห้งเหี่ยว แต่พอมองดูดีๆ สิ่งนั้นมันคล้ายลำไส้หรืออวัยวะ(คนหรือสัตว์ก็ไม่รู้) ที่ถูกฉีกจนยุ่ย เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกองรวมกับเศษผ้าเก่าๆ แล้วก็ปอยผมเล็กๆ lyn68 หลายปอย ดีที่อวัยวะพวกนั้นแห้งกรังไปหมดแล้วแม่ทนไม่ไหวเดินออกมาอาเจียน เห็นหมอยาเดินหลบมาคุยกับลุงพุฒิ ระหว่างนั้นเองลุงยศก็หยิบลำไผ่ที่เกลื่อนอยู่กับพื้นขึ้นมา 1 ลำแล้วเอาไปเขี่ยเมือกที่อยู่ตรงหน้า ลุงพุฒิหันมาเห็นก็บอกว่าอย่าไปถูกมันแต่ช้าไปแล้ว ลุงยศเขี่ยไปแล้ว พลันที่ลุงยศเขี่ยเมือกใสนั้น น้าแย้มที่ตอนแรกนอนอยู่ในห้องลากเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปไหน โผล่พรวดมายืนตรงประตูหลังบ้านสีหน้าบึ้งตึง แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมา ลุงพุฒิตะโกนบอกให้จับน้าแย้มกลับเข้าไปในห้องลุงยอดเข้าไปจับไว้ แต่ก็เหมือนเดิมคือ สู้แรงเด็กสาวอายุไม่เกิน 15 ไม่ได้ แม่ก็เดินเข้ามาช่วย บอกว่า“แย้มออกมาทำไมเข้าไปรอในบ้านก่อน” น้าแย้มไม่สนใจเลย ผลักแม่จนเกือบจะล้ม ลุงยักษ์เลยเดินเข้าไปขวางจับไหล่แล้วบอกว่า “แย้ม เข้าบ้านไปก่อน” น้าแย้มหันมามองลุงยักษ์ แต่ก็ไม่สนสะบัดมือจะเดินต่อ แต่ลุงยักษ์ไม่ปล่อย ตบหน้าน้าแย้มเสียงดังเผี๊ยะ “กรูบอกให้ไปรอในบ้าน” ตากับแม่ก็ตกใจ แต่น้าแย้มก็ไม่ยอมดิ้นแรงมาก จนลุงพุฒิเดินเข้ามาเอาสีผึ้งป้ายตรงหน้าผาก หน้าแย้มก็หยุดดิ้น มีอาการเหมือนเดิมคือตาเหลือก เกร็ง แล้วลุงพุฒิก็บอกให้ลุงยักษ์กับลุงยอดพาน้าแย้มกลับเข้าไปรอในห้อง เสร็จแล้วลุงพุฒิก็เดินเข้าไปคุยกับตา…
เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 13
ลุงยักษ์กับลุงยศหายไปตรงห้องเก็บของ กลับมาพร้อมมีดพร้าคนละเล่มก็สงสัยว่าลุงพุฒิให้เอามาทำไมลุงพุฒิเดินไปเดินมาตรงหลังบ้าน ปากก็พึมพัมๆเบาๆ บางทีก็เดินไปไกลถึงแปลงผัก แล้วก็วนกลับมาลุงยักษ์ถามว่าให้เอามีดมาทำไม แต่ลุงพุฒิยังไม่ตอบ lynblue89 เดินไปหยุดตรงหน้ากอไผ่กอใหญ่ 2-3 กอหลังบ้านแม่ได้ยินลุงยศกระซิบกับลุงยักษ์ว่า กอที่แย้มเข้าไปคืนนั้นนี่หว่า **ใครจำไม่ได้ย้อนกลับไปอ่านช่วงนั้นได้นะครับ ที่ยายบอกให้ลุงยศอุ้มน้าแย้มออกมาแม่เพิ่งมารู้ทีหลังว่า ที่ได้ยินลุงยศถามว่าแย้มเข้าไปทำไมในนั้น เมื่อตอนดึกวันก่อน ที่แท้มันคือในกอไผ่นั่นเอง**ลุงพุฒิยืนจ้องกอไผ่กอใหญ่สุดอยู่สักครู่ ก็บอกว่า“เอ๊า ลองฟันกอไผ่กอนี้ให้ดูหน่อย ข้างในมีอะไรรึเปล่า” lynblue89 ลุงยศก็ดูงงๆ ถามว่าให้ฟันทำไม ด้านในมันมีอะไร ลุงพุฒิไม่ตอบอะไรยืนดูนิ่งๆ ลุงยศก็หันไปมองพี่ชายว่าจะเอายังไง แต่ลุงยักษ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินเข้าไปฟันโช๊ะสุดแรง ลำไผ่หักโค่นลงมาทันทีลุงยศเห็นจึงเข้าไปสมทบ กระหน่ำฟันกอไผ่กอใหญ่กอนั้นไม่ยั้ง ตาก็ออกมาถามว่าทำอะไรกัน ลุงพุฒิก็เดินเข้าไปขอโทษบอกว่าให้รอดูสักพัก ลุงยักษ์กับลุงยศฟันกอไผ่ไปได้สักพักก็ผงะ หยุดนิ่ง ซึ่งไม่ใช่แค่ลุง 2 คนนั้น แต่ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นได้กลิ่นเหม็นเน่ามากจนแทบอ้วก โชยมาจากส่วนลึกด้านในลุงพุฒิยืนนิ่งๆก็พูดต่อ “เอ๊าฟันต่อไป ยังหนุ่มยังแน่นแรงหมดแล้วเหรอ? เอาอีก เข้าไปให้ถึงตรงกลางดงเลย” ลุงยักษ์บอกให้แม่หยิบผ้าขาวม้ามา พันจมูก แล้วลงมือฟันต้นไผ่ลำใหญ่นั้นต่อยิ่งเข้าไปลึก กลิ่นเหม็นเน่ายิ่งรุนแรง จนลุงยศไม่ไหวต้องถอยออกมาตั้งหลักก่อน เหลือลุงยักษ์คนเดียวซึ่ง ณ ตอนนั้นแม่บอกว่าลุงยักษ์คงบ้าเลือดไปแล้ว ไม่สนกลิ่นเน่าอะไรทั้งนั้น ฟันไปด่าไป ทั้งถีบทั้งฟันทั้งกระชากกอไผ่กอนั้นกระจุยไปแถบจนกอไผ่ด้านนึงถูกฟันจนราบไปถึงด้านในแม่เห็นลุงยักษ์ยืนหอบมองเข้าไปด้านในกอไผ่แล้วสบถออกมา “นี่มันอะไรวะเนี่ย?” กลับสู่หน้าหลัก
เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 12
น้าแย้มได้ยินก็ตอบกลับไปว่า “ลุงพูดอะไร lyn68 หนูไม่รู้เรื่อง” ลุงพุฒิก็พูดต่อว่า “ใครทางมันเถอะ นี่ก็ทำร้ายกันมามากแล้วสงสารเด็กมันนะ” แต่น้าแย้มก็ตอบเหมือนเดิม “ลุงพูดอะไร หนูไม่รู้เรื่อง” แต่ท่าทางที่น้าแย้มแสดงออกไม่ใช่ลักษณะของคนไม่ประสา แต่เป็นลักษณะของการท้าทายมากกว่าลุงพุฒิถอนหายใจ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบตลับกลมๆขนาดเท่าเหรียญสิบ เปิดฝาออกด้านในเป็นสีผึ้งสีขาวๆคล้ำ ลุงพุฒิป้ายสีผึ้งด้วยนิ้วโป้ง แล้วแปะไปบนหน้าผากของน้าแย้ม lyn68 ทันทีที่น้าแย้มโดนสีผึ้งก็ไม่มีอาการกรี๊ดร้องเหมือนในละคร แต่จะมีอาการชักๆ เกร็งๆน้าแย้มเกร็งๆสักพักก็ร้องเบาๆ แม่ช่วยหนูด้วย หนูกลัวลุงคนนี้ ยายได้ยินก็จะเดินเข้าไปหา แต่ลุงยักษ์ดึงไว้น้าแย้มก็เกร็งยิ่งขึ้น มือไม้งอ ก็ร้องอีกว่า แม่ช่วยหนูด้วย หนูกลัว ยายก็สะบัดมือลุงยักษ์ บอกพอแล้วๆ สงสารแย้มแล้วก็เดินเข้าไปลูบหน้าลูบตาบอกไม่เป็นไรแล้วๆลุงยักษ์ก็หงุดหงิด บอกว่า หลบก่อนเถอะแม่ ให้ลุงพุฒิดูก่อน ยายผมก็บอกลุงยักษ์ว่า ไม่สงสารน้องเหรอน้องมันก็ปกติดี ไม่เห็นที่เรียกเมื่อกี้เหรอ ตาก็บอกว่าพอแล้วๆ ลุงยักษ์จะพูดต่อ แต่ลุงพุฒิยกมือบอก ไม่เป็นไรๆ เราออกไปคุยกันข้างนอกหน่อยนะ ลุงพุฒิกับลุงยักษ์และหมอยาก็เดินตามกันออกไปหลังบ้าน แม่ก็เดินตามไปแอบฟังด้วย แม่ได้ยินลุงพุฒิพูดเบาๆว่า “ไม่ดีแล้วไอ้หนุ่มเอ้ย น้องสาวเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วใช่มั้ย?” ลุงยักษ์ก็บอกว่าเป็นมาอาทิตย์กว่าแล้ว ลุงพุฒิส่ายหน้าบอกว่า แรงนะ ไม่เคยเจอขนาดนี้ ทำไมปล่อยกันมาหลายวันแบบนี้ ลุงยักษ์ก็บ่นๆว่า ตัวเขาเองก็ไปทำงานหลายวัน…
เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 11
ช่วงเช้าวันต่อมา แม่กับน้าเย็นก็ช่วยกันหุงหาอาหารปกติ ยายก็นั่งดูอาการน้าแย้มซึ่งก็ยังทรงๆอยู่ ตากับลุงยศก็ออกไปทำงานอยู่ใกล้ๆบ้านเพราะห่วงลูกสาวที่อาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่ ส่วนลุงยอดก็ออกไปนั่งรอลุงยักษ์ที่ม้าหินไม้หน้าบ้าน lynbet จนแดดแรงราว 8 โมงตากับลุงยศก็กลับมาบ้าน ก็บ่นๆว่ายักษ์ยังไม่กลับมาเหรอ สายป่านนี้แล้ว กว่าจะตีรถเข้าตัวจังหวัดอีกหลาย ชม. เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปกันพอดี แล้วก็ถามยายว่าแย้มเป็นยังไงบ้าง ยายก็บอกว่าสีหน้าก็ดูปกติ แต่ถามคุยอะไรไปก็บอกว่าเพลีย อยากนอนอย่างเดียวไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ตาก็เลยเดินเข้าไปดูอาการ ถามว่าเป็นยังไง ก็ได้ยินเสียงแว่วๆของน้าแย้มบอกว่าจะนอน lynbet เพลียตาก็โมโห บอกว่า เป็นอะไรนักหนา ค่อยยังชั่วหรือเป็นอะไรก็บอกมาสิ เอาแต่นอนไม่พูดไม่จาอยู่ได้ งานการไม่ทำเริ่มทะเลาะกันดังขึ้น สุดท้ายน้าแย้มก็ตะโกนมาว่า “อย่ามายุ่งกับ….ได้มั้ย!!?” ตาได้ยินแบบนั้นก็โมโหมาก บอกว่า พูดแบบนี้ได้ไง ไม่มีใครสั่งสอนรึไง แล้วตีน้าแย้มน้าแย้มโดนตีก็ร้องกรี๊ดด เสียงดัง ยายก็เข้าไปห้ามบอกว่าลูกไม่สบายอยู่ ก็ปล่อยให้นอนพักไปก่อนสิตาโมโหมากเดินออกไปนอกบ้าน แม่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนฟัง เสียงกรี๊ดของน้าแย้มรอจนเกือบเที่ยง แม่ก็ได้ยินเสียงรถขับมาจอดหน้าบ้าน แม่รีบวิ่งออกไปดู สิ่งแรกที่เห็นคือ รถกระบะจอดอยู่โดยกระจกหน้ารถมีรอยร้าวใหญ่มาก แล้วก็เห็นหมอยาคนเดิมมากับลุงยักษ์ด้วย แม่เดินเข้าไปก็ได้ยินลุงยศคุยกับลุงยักษ์ “รถไปโดนอะไรมา” ลุงยักษ์ตอบไปว่า “ ก็เมื่อคืนตอนที่กรูขับรถออกมา พอออกจากไร่ได้แป๊บเดียว พอเลี้ยวโค้ง อยู่ๆไม่รู้ใครปาก้อนดินใส่กระจกหน้า สงสัยอีนั่นมั้ง…
เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 10
เสียงเคาะประตูดังอีกรอบ ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ xx……เปิดประตูให้หน่อยย” แม่กล้าๆกลัวๆ ถามไปเบาๆว่า lyn68 แย้มเหรอ? แต่ปลายเสียงไม่ตอบ กลับพูดเหมือนเดิม “ xx……เปิดประตูให้หน่อยย” เป็นรอบที่ 3 ใจก็คิดว่าคงเป็นน้องตัวเอง เอื้อมมือไปกำลังเปิดกลอน ก็นึกได้ว่า… แม่นึกขึ้นได้ว่านานมาแล้ว ตอนสัก 10 ขวบ ยายเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนตำบลใกล้ๆมีเรื่องแปลกๆที่ลือกันว่า มีผีผู้หญิง (เข้าใจก่อนนะครับ 30-40 ปีที่แล้ว เจอเรื่องอะไรลี้ลับ ก็เหมาว่าเป็นผีสางนางไม้ไว้ก่อน)ชอบออกมาป้วนเปี้ยนตอนดึก ๆ และจะเกิดเรื่องว่า วัยรุ่น หรือเด็กเล็กๆ lyn68 หายไปจากบ้านตอนกลางคืนโดยทุกเหตุการณ์จะเล่าคล้ายๆกันคือ จะมีเสียงคนรู้จักมาเคาะประตูบ้าน และเรียกชื่อคนที่อยู่ในบ้าน 3 ครั้ง คนที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นเดินไปเปิดประตูให้ ก็เดินหายไปในความมืดและไม่ได้กลับมาอีกเลย ส่วนคนที่รอดมาได้ก็มาเล่าให้ฟังว่าเหมือนฝัน ได้ยินเสียงคนรู้จักมาเคาะประตูหน้าบ้านตอนกลางคืน ก็เดินออกไปเปิดประตู เห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ลิบๆคนที่เล่าฝันว่ากำลังเดินไปหาผู้หญิงคนนั้น พอดีมีคนในบ้านอีกคนตื่นขึ้นมาแล้วตะโกนมาว่า ออกมาทำอะไร ละเมอเหรอ คนที่เล่าก็ได้สติ พบว่าไม่ได้ฝัน ตัวเองยืนอยู่หน้าบ้านจริงๆ (ตอนผมฟังมีหลอนนิดๆ) ยายก็เลยบอกว่า…
เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 9
เสียงนั่นดังแว่บเดียว ทุกอย่างก็เงียบ สักพักแม่ได้ยิน ตากับยายตื่นขึ้นมา แล้ววิ่งออกไปหลังบ้าน ได้ยินเสียงคุยกันว่า lynbet เกิดอะไรขึ้น แล้วตาก็ดุลุงยักษ์ว่า เอาปืนออกมาทำไม มีอะไรกัน โจรขึ้นบ้านเหรอ หลังจากนั้นก็เริ่มทะเลาะกัน แม่ได้ยินลุงยักษ์บอกว่า“พ่อไม่รู้อะไรหรอก รู้มั้ยว่าตอนเนี่ยในบ้านมันแปลกๆ ตั้งแต่แย้มไม่สบายเนี่ย กลางดึกมันจะเดินออกมาพึมพำบ้าบอทุกคืน วันๆพ่อก็ทำแต่งาน lynbet รู้มั้ยน้องๆมันกลัวกันแค่ไหน”หลังจากนั้นก็ทะเลาะกันเสียงดังขึ้น ตาผมก็บอกว่างมงาย ไร้สาระ ผีเพ่อมีจริงที่ไหน ระหว่างที่เถียงกันอยู่ยายก็ถามว่าแล้วแย้มอยู่ไหน? ลุงยศก็บอกว่ายังไม่เจอ ยายกับลุงยอดก็ตะโกนเรียกลุงยักษ์กับลุงยศกำเดินฝ่าความมืดออกไปทางแปลกผักเดิม ลุงยักษ์ก็คะนอง ตะโกนท้าทายว่า “เมิงออกมาสิวะ e-ha แน่จริงเมิงออกมา” ยายได้ยินก็ตกใจร้องว่า ไปท้าทายแบบนั้นได้ยังไง เงียบเลยนะ ลุงยักษ์ก็บอกว่า “ไม่กลัวหรอกแม่ คนเยอะแยะ แน่จริงเมิงออกมา พวกกรูไปทำอะไรให้หนักหนาเสรือกมายุ่งกับครอบครัวกรู เมิงออกมา!” แค่นั้นละ ทุกคนรวมแม่ผมที่นั่งอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงโครม! เสียงดังมาก เหมือนใครเอาก้อนดินก้อนปาลงมาบนหลังคาบ้าน แม่ผมตกใจมาก แต่คนที่ตกใจกว่าอยู่นอกบ้าน แม่ได้ยินยายบอกว่า “แม่บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปท้าทาย!! บอกแล้วใช่มั้ย เงียบเลยนะหยุดๆ” แต่ลุงยักษ์คงโมโห ถึงไม่ตะโกน แต่ก็สบถออกมา “แม๊ง….จะเอาไงกับกรูวะ”…
เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 8
ตามมาด้วยเสียงคนเดินกระทืบเท้า lynbet ตึกๆๆ แม่บอกว่ากลัวมากตอนนั้น ร้องก็ไม่มีเสียงได้แต่จ้องไปด้านนอกห้องสักพักก็มีคนเดินมาตรงโต๊ะกลาง น้าแย้มนั้นเอง น้าแย้มยืนโงนเงนมองลุงยักษ์ กับลุงยศ ซึ่งนั่งหลับอยู่ครู่ก็เดินเลยไปทางหลังบ้าน จนลับตาแม่ ได้ยินเพียงแต่เสียง แอ๊ดดด เบาๆอีกรอบ ตามด้วยเสียงประตูปิด พอเสียงประตูเงียบไปสักพัก แม่ก็รีบปลุกลุงยอด กว่าจะตื่นก็กินเวลาไปนอนโข แต่ลุงยอดที่งัวเงียอยู่แทบจะตื่นทันทีเพราะเสียงเย็นเยียบ ลอยมาเบาๆ “ธี่…….หยดดดดด ธี่ หยดดดดดด ธี่………หยดดดดด”ลุงยอดผุดลุกจากเตียงตรงไปปลุกลุงยักษ์กับลุงยศ ทั้ง 2 ตื่นมาก็รู้แทบจะทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเสียงนั่นยังลอยโหยหวนชวนสยอง ลุงยักษ์ไม่พูดอะไรหยิบปืนลูกซองกระบอกเดิมออกมาแล้วสั่งเบาๆให้แม่กลับเข้าไปนอนแล้วล็อคประตูห้อง lynbet ปิดหน้าต่างปิดม่านให้หมด ได้ยินเสียงอะไรห้ามออกมาจากห้องเด็ดขาด แม่ผมอยากตามไปดูมาก แต่ก็กลัวลุงยักษ์มากเหมือนกัน จึงจำใจต้องกลับเข้าห้องล็อคกลอนตามคำสั่งหลังจากนั้นแม่ก็เข้าไปนั่งในมุ้ง นอนชิดกับน้าเย็นซึ่งหลับไม่รู้เรื่อง ก็พอได้ยินพี่ๆ ทั้ง 3 คนเดินไปทางหลังบ้านทางเดียวกับที่น้าแย้มเดินลับไป เสียงนั่นยังดังเอื่อยๆ เป็นระยะ สลับกับเสียงหมาหอนดังระงมไปหมด แม่เงี่ยหูฟัง ในความวังเวงนั่นเองแล้วแม่ก็ได้ยินเสียงชุลมุนด้านนอก และตามด้วยเสียงลุงยักษ์ตะโกนดังลั่นกลบเสียงหมาหอน และกลบเสียงประหลาดนั้นด้วย “ กรูไม่กลัวเมิงหรอก แน่จริงเมิงออกมา กรูจะยิงแม่มให้ตายอีกรอบเลย ออกมาสิวะ!” สิ้นเสียงลุงยักษ์ แม่ได้ยินอีกเสียงหนึ่งดังลอยมาไกลๆ ไม่ใช่เสียงประหลาด เป็นเสียงที่ไม่คุ้นหู ฟังแล้วขนลุกไปทั้งตัว…
สามทุ่มสิบห้าเวลาเธอตาย (4)
รุจหันขวับไปมองนาฬิกา ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบสามทุ่มกว่า (เวลาเดียวกับตอนนี้เลย ระวังนะ)แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เกรนจึงเล่าต่อ หลังจากนั้นมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นเสมอ มักเห็นเงาคนแปลกๆ อยู่ตามมุมมืดๆ ทึบแสงเช่น ใต้เตียง เงามืดหลังประตู lyn68 หรือนอกหน้าต่าง ในที่สุดมีอยู่คืนหนึ่งนอนดูทีวี สักสามทุ่มกว่าช่วงคั่นโฆษณาทีวีจะมืดไปแป๊บหนึ่ง เห็นเงาผู้หญิงยืนสะท้อนอยู่ในทีวี คิดว่าตาฝาด แต่คืนนั้นทั้งคืนแทบไม่ได้นอนได้ยินเสียงแปลกๆ ตลอด ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงเหมือนคนเอามือไปลูบไปถูที่ต่างๆ มาอีกครั้งตอนอยู่คอนโดเก่าที่แม่เกรนคิดว่ายังอยู่ที่นั่น คืนนั้นพี่ต้องแวะมา นั่งคุยกันอยู่พี่ต้องได้ยินเสียงเอี๊ยดๆ ตรงกระจก(แบบเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า) ช่วงกลางคืนสามทุ่มกว่า พอเดินไปใกล้ๆ ก็เห็นใครไม่รู้กระโดดลงมาจากห้องชั้นบนเหมือนที่รุจเห็นเมื่อกี้นั่นล่ะเออะ… รุจกลืนน้ำลายลงคอเกรนไม่สบายใจจึงปรึกษาพี่ต้องพากันไปหาพระ ท่านก็ไม่แนะนำอะไรมาก บอกให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ตายบ่อยๆ อย่าให้ขาดทุกวันยิ่งดี แต่ไม่บอกอะไรอีกเลย บอกแค่ว่าที่เหลือก็แล้วแต่บุญกรรม lyn68 แต่แนะนำได้ว่าให้ไปใครคนหนึ่งแทนเป็นคนทรง ขากลับแวะไปหาคนทรงคนนั้น ทันทีที่เห็นเขาบอกว่ามีวิญญาณผู้หญิงคนหนึ่งตามอยู่ วนเวียนอยู่รอบตัว เธอแค้นมากมักปรากฏในอีกมิติ และย้ำนักหนาว่าระวังตัวให้ดี มันก่ะเอาถึงตาย จากนั้นแนะนำต่อว่า วิญญาณดวงนี้เขาอยากจะถูกเจอ จะพยายามปรากฏให้เห็น แต่ก็เฉพาะในมิติที่ทำได้และสุดท้ายบอกอีกว่า หากเห็นวิญญาณดวงนี้กับตาครบ 3 ครั้ง อาจถึงตาย ถึงตอนนี้คงต้องขึ้นอยู่กับบุญกรรมแล้วช่วยอะไรไม่ได้ ที่เหลือก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปมากๆ อาจผ่อนหนักเป็นเบาเออะ… รุจอ้าปากค้างอีกรอบ รุจพยายามบอกว่าหมอดูคู่หมอเดา…
สามทุ่มสิบห้าเวลาเธอตาย (3)
รุจหันกลับไปมอง แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่าว่างเปล่า พอกลับมามองในจอมือถือก็ไม่เห็นใคร สงสัยเพื่อนบิ้วมากจนตาฝาดรุจวางโทรศัพท์ เผ่นดีกว่า บอกเพื่อนซะหน่อย ระหว่างที่กำลังตะโกนถามเพื่อนว่าเสร็จรึยังรุจได้ยิน lynbet เสียง เอี๊ยดดดด ดังมาจากนอกระเบียงอีกครั้ง… รุจก็เป็นหนึ่งในนั้นกลัวนะ แต่ก็ข้องใจมาตั้งแต่เมื่อกี้ล่ะ ก้าวช้าๆ ไปถึงม่าน เปิดพรึ่บ! ช่วงหลังๆ ภาพสโลว์โมชั่นที่ปรากฏทำเอาชายอกสามศอกแทบลมจับ รุจเห็นร่างๆ หนึ่งเป็นผู้หญิงคล้ายสวมชุดนอนกระโดดมาจากไหนไม่รู้ น่าจะเป็นห้องบนๆ ลอยร่วงผ่านไปต่อหน้าต่อตา ชนิดฟูลเอชดีไม่มีฝาดแน่ๆ คือถ้าเป็นละครผู้ชมคงลุ้นว่าอย่าเปิดๆ แต่ชีวิตจริงคนเรามีความอยากรู้เป็นนิสัย รุจร้องลั่น “เฮ้ย!” เสียงดังจนเกรนรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังไม่ได้สวมกางเกง มีแค่เสื้อชายยาวๆคลุม lynbet เธอจึงมักมาดักยืนรอหน้าที่ทำงานตอนเย็นๆโดยจะยืนจ้องหน้านิ่งๆ เกรนกลัวมากจึงไปคุยกับพี่ต้อง ไม่รู้ว่าไปเคลียร์กันอีท่าไหนแต่แพรก็หายไป “เฮ้ยเกรนมีคนโดดตึก!” รุจตะโกนถลาออกไปเกาะระเบียง ไม่ต่ำกว่าชั้น 15 ความหวังว่าจะรอดคือศูนย์ดีๆ นี่เอง. ผิดปกติมากๆ เมื่อไม่เห็นใครร่างใครสักคน“อะไรวะ เราเห็นคนกระโดดลงไปจริงๆ นะเว้ย ร้อยเปอร์เซ็น” ไม่ฝาดแน่ๆ รุจคิด แหงนมองล่างมองบน ซ้ายขวา แต่ไม่มีเงาใครสักคน ใจเต้นตึกๆ ด้วยความตกใจ…ก็ควรตกใจมั้ยล่ะ? คนร่วงไปต่อหน้าแล้วหายไปซะงั้น หันกลับไปหวังจะอธิบาย กลับเผชิญสีหน้าเย็นชาของเพื่อนสาวพร้อมกับมือที่ยื่นออกมา รุจคิดถึงหนังไทยสักเรื่องที่ชอบหักมุมไปมาชื่อ 4 แพร่ง…